คำว่าสันติภาพนั้นไม่มีวัน
จะกี่สิบปีที่ผ่านพ้นมา
ไม่ได้ทำให้ผู้คนรักกัน
ความคิดที่แตกแยกได้นำพา
ให้สงครามเกิดขึ้นได้ทุกวัน
ผู้คนยังคอยหวังในความสงบที่แท้จริง
แต่กลับเห็นข่าวฆาตรกรรมแทบทุกวัน
เพราะว่ารู้ในความจริง
คำว่าสันติภาพนั้นไม่มีวัน
ต่างกันแค่เพียงสี แม่งก็มีปัญหาเรื่องความเห็น
แค่เพียงคิดต่างก็มาตัดสินในสิ่งที่เป็น
จิตสำนึกล้วนแล้วมันอยู่ที่จิตใจ
ถ้าอยู่ที่สีแล้วกูจะมีจิตสำนึกไปทำไม
หลายคนยังคอยหวังสันติภาพว่าจะได้เห็น
แต่กูหมดศรัทธากับสังคมที่เลือดสาดกระเซ็น
มีผู้รักษาความสงบแต่ประเทศแม่งไม่สงบจริง
แต่งเครื่องแบบไปรับตังค์แล้วก็อ้างทำมาหากิน
เสียงเรียกประชาชน เหมือนมีกำแพงปกปิด
ตะโกนดังแค่ไหน ผลตอบรับคือมืดสนิท
จิตสำนึก ไม่ได้มาพร้อมตอนสำเร็จการศึกษา
สร้างภาพอันขาวสะอาดกับสันติภาพที่คนถามหา
สิ่งที่มึงพูดกับสิ่งที่มึงทำมันไม่ใช่
จุดเทียนด้วยมือซ้าย แต่มึงกลับลั่นไกด้วยมือขวา
ต่างกันแค่เพียงสี แม่งก็มีปัญหาเรื่องความเห็น
แค่เพียงคิดต่างก็มาตัดสินในสิ่งที่เป็น
จิตสำนึกล้วนแล้วมันอยู่ที่จิตใจ
ถ้าอยู่ที่สีแล้วกูจะมีจิตสำนึกไปทำไม
ถามหาสันติภาพมันเป็นได้เพียงความฝัน
เพราะว่าในความจริงกูยังเห็นคนฆ่ากัน
ต่างกันแค่เพียงสี แม่งก็มีปัญหาเรื่องความเห็น
แค่เพียงคิดต่างก็มาตัดสินในสิ่งที่เป็น
จิตสำนึกล้วนแล้วมันอยู่ที่จิตใจ
ถ้าอยู่ที่สีแล้วกูจะมีจิตสำนึกไปทำไม